ทัวร์ญี่ปุ่น OSAKA KYOTO HOKKAIDO ASAHIKAWA

ทัวร์ญี่ปุ่น OSAKA KYOTO HOKKAIDO ASAHIKAWA

รหัสทัวร์
009-8988
วันที่เดินทาง
พ.ค.67 - มิ.ย.67
ช่วงเวลา
8 วัน 5 คืน
เดินทางโดย
Japan Airlines (JL) Japan Airlines (JL)

ไฮไลท์

  • เยือน ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ เสาโทริอิพันต้นแห่งเกียวโต
  • วัดคิโยมิสึเดระ วัดน้ำใส สามสายน้ำศักดิ์สิทธิ์ แห่งเกียวโต - ชมความยิ่งใหญ่ ของปราสาทโอซาก้า
  • ช้อปปิ้ง ชินไซบาชิ พร้อมเช็คอิน ป้ายกูลิโกะแมน แห่งโดทงโบริ โอซาก้า
  • ละลานตากับดอกไม้หลากสายพันธ์ ณ ชิคิไซโนะโอกะ และ เทศกาลฤดู ลาเวนเดอร์ ณ โทมิตะฟาร์ม (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ)
  • เนินพระพุทธเจ้า - ทานบุฟเฟ่ต์เมลอนของเมืองฟุราโน่ 
  • น้ำตกชิราฮิเกะ 1 ใน 5 ของน้ำตกที่สวยที่สุดบนเกาะฮอกไกโด
  • ชม สระอะโออิเคะ(Aoiike) หรืออีกชื่อนึงว่า “สระน้ำสีฟ้า(Blue Pond)”
  • เดินชม คลองโอตารุ ในบรรยากาศสุดแสนโรแมนติก - ชม พิพิทธภัณฑ์กล่องดนตรี พร้อมชม นาฬิกาไอน้ำโบราณ
  • อิ่มอร่อย!!! บุฟเฟ่ต์ชาบู+ขาปูยักษ์แห่งเกาะฮอกไกโด
     

แผนการเดินทาง

20.30 น.         พร้อมกันที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตู 10 ผู้โดยสารขาออก เพื่อพบไกด์และรับเอกสาร และโหลดกระเป๋าเคาน์เตอร์ สายการบินเจแปนแอร์ไลน์ (JAPAN AIRLINES) เจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยให้การต้อนรับ และอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน

00.25 น.         ออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น เที่ยวบินที่ JL728 (บริการอาหารร้อน พร้อมเครื่องดื่ม บนเครื่อง)

08.05 น.         เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น หลังจากผ่านขั้นตอนศุลกากร เรียบร้อยแล้ว แล้ว (เวลาที่ญี่ปุ่น เร็วกว่าเมืองไทย 2 ชั่วโมง กรุณาปรับนาฬิกาของท่านเพื่อความสะดวกในการนัดหมายเวลา) ***สำคัญมาก!! ประเทศญี่ปุ่นไม่อนุญาตให้นำอาหารสด จำพวก เนื้อสัตว์ พืช ผัก ผลไม้ เข้าประเทศ หากฝ่าฝืนมีโทษปรับและจับหลังผ่านขั้นตอนการเข้าประเทศแล้ว

เดินทางสู่ เมืองเกียวโต (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.40 ชั่วโมง) เมืองหลวงเก่าของประเทศญี่ปุ่น มีชื่อเสียงระดับโลกในเรื่องของวัฒนธรรมที่ประณีต ศิลปะแบบญี่ปุ่นอย่างแท้จริง มีมนต์เสน่ห์แบบชนบทญี่ปุ่น ปัจจุบันเป็นเมืองท่องเที่ยวที่เป็นนิยมของคนทั่วโลก

เที่ยง                รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (1)

นำท่านสู่ วัดคิโยมิสึเดระ (Kiyomizu-dera) แปลเป็นภาษาไทยว่า วัดน้ำใส เป็นวัดที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองเกียวโต สร้างขึ้นมาก่อนที่เกียวโตจะเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่น เมื่อปี ค.ศ.778 นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาเพื่อสักการะและขอพรจากองค์พระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิม 11 พักตร์ 1000 กร ซึ่งเป็นพระประธานของวัด นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นที่ประดิษฐานของเทพเอบิสึผู้เป็นเทพเจ้าแห่งความร่ำรวยมั่งคั่ง ตัววัดก่อสร้างด้วยไม้เกือบทั้งหมดแต่ที่น่าสนใจ ได้แก่ เสาที่ค้ำยันระเบียงวัดขนาดใหญ่ เสาดังกล่าวประกอบไปด้วยเสาไม้ขนาดใหญ่จำนวนร้อยกว่าต้น สร้างขึ้นด้วยไม้ขนาดใหญ่สูงจากพื้น 12 เมตร โดยไม่ใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียว อาคารไม้หลังนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมในปี 1994 จากองค์การยูเนสโกในฐานะส่วนหนึ่งของอนุสาวรีย์ทางประวัติศาสตร์เมืองเกียวโต

จากนั้น นำท่านเดินเท้า เพื่อชม ย่านฮิกาชิยาม่า (Higashiyama) ซึ่งเป็นแหล่งรวมสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญน่าชมของเกียวโตให้บรรยากาศแบบดั้งเดิม แลนด์มาร์คที่โดดเด่นของย่านนี้ เจดีย์ยาซากะ (Yasaka Pagoda) ซึ่งเป็นเจดีย์ 5 ชั้น สูง 46 เมตรที่สามารถมองเห็นได้เกือบจากทุกมุมของย่านนี้ แลนด์มาร์คสวยๆ อีกแห่งที่พลาดการถ่ายรูปไม่ได้ คือ เนินนิเนนซากะ (Ninenzaka) และเนินซันเนนซากะ (Sannenzaka) ซึ่งเป็นเนินบันไดที่ปูด้วยแผ่นหินตั้งอยู่ท่ามกลางบ้านไม้

จากนั้นนำท่านสู่ ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ (Fushimi Inari Shrine or Fushimi Inari Taisha) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) ศาลเจ้าเสาโทริอิพันต้นแห่งเกียวโต (จริงๆมีเป็นหมื่นๆ ต้น) หรือที่คนไทยชอบเรียกกันว่า ศาลเจ้าจิ้งจอก หรือ ศาลเจ้าแดง เป็นศาลเจ้าชินโตสร้างถวายแด่ เทพอินาริ ซึ่งเป็น เทพแห่งพืชพันธุ์ธัญญาหารของญี่ปุ่น ช่วยบันดาลในหลายเรื่องตั้งแต่ พืชพันธุ์งอกงาม, ค้าขายรุ่งเรือง, คลอดบุตรปลอดภัย, โรคภัยหายป่วย และช่วยในเรื่องการขอให้สอบผ่าน เป็นต้น ศาลเจ้าแห่งนี้ มีชื่อเสียงโด่งดังจาก เสาโทริอิสีแดง เรียงตัวกันจำนวนหลายหมื่นต้นจนเป็นทางเดินได้ทั่วทั้งภูเขาอินาริ ตามตำนานเล่าสู่ว่า โดยปกติแล้วเทพอินาริจะไม่สื่อสารกับมนุษย์เองโดยตรง แต่จะสื่อสารผ่านบริวารของท่าน นั่นคือ สุนัขจิ้งจอก (คิทสึเนะ 狐) นั่นเอง ทำให้มีรูปปั้นของสุนัขจิ้งจอกตั้งเรียงรายเต็มไปหมด จนคนทั่วไป นิยมเรียก ศาลเจ้าแห่งนี้ว่า ศาลเจ้าจิ้งจอก อิสระให้ท่านขอพรและถ่ายรูปภาพตามอัธยาศัย

จากนั้นเดินทางสู่ เมืองโอซาก้า (Osaka) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เมืองที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 และมีประชากรมากเป็นอันดับ 3 ของประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในภาคคันไซบนเกาะฮนชู ประเทศญี่ปุ่น ปัจจุบันเมืองโอซาก้ามีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย มีแหล่งช้อปปิ้งยอดนิยม มีสวนสนุกขนาดใหญ่ ทั้งยังมีอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น ทาโกะยากิ โอโคโนมิยากิ (พิซซ่าญี่ปุ่น) และ คุชิคัตสึ

อิสระช้อปปิ้ง ย่านชินไซบาชิ (Shinsaibashi) บริเวณแหล่งช้อปปิ้งแห่งนี้มีความยาวประมาณ 600 เมตร เต็มไปด้วยร้านค้าปลีก ร้านแฟรนไชส์ ร้านเครื่องสำอางค์ ร้านรองเท้า กระเป๋านาฬิกา ร้านกาแฟ ร้านอาหาร ร้านขนม ร้านเสื้อผ้าสตรีทแบรนด์ทั้งญี่ปุ่นและต่างประเทศ เช่น Zara H&M Beans ABC Mart เป็นต้น เรียกว่ามีทุกอย่างที่ต้องการรวมกันอยู่บริเวณนี้ ใกล้กันท่านสามารถเดินไปยัง ย่านโดทงโบริ (Dotonbori)  ย่านบันเทิงยามค่ำคืนตลอดแนวถนนเลียบคลองโดทงโบริ จากสะพานโดทงโบริบาชิไปจนถึงสะพานนิปปนบาชิ ไฮไลท์!!! ใครๆ ก็เช็คอิน ถ่ายภาพคู่ ป้ายกูลิโกะแมน หรือ ป้ายโดทงโบริกูลิโกะ (Dotonbori Glico Sign) เป็นป้ายไฟนีออนรูปนักกรีฑากำลังวิ่งอยู่บนลู่วิ่ง ซึ่งถูกติดตั้งมาตั้งแต่ ปี ค.ศ.1935 นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งสัญลักษณ์สถานที่นัดพบกันหลง นั่นก็คือ ร้านปูคานิโดรากุ (Kani Doraku) ซึ่งมีปูยักษ์ขยับแขนและลูกตาได้อีกด้วย และห้ามพลาดสำหรับ ทาโกยากิ อาหารท้องถิ่นของชาวโอซาก้า ที่มาถึงถิ่นแล้วต้องลอง Original Taste รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน

เย็น                  รับประทานอาหารเย็นอิสระตามอัธยาศัย

พักที่                HOTEL B SUITES NAMBA, OSAKA หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน

เช้า                  รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (2)

เดินทางสู่ ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle) (ด้อนนอก) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที) เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คสำคัญของเมืองโอซาก้า หอคอยปราสาทจะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 8 ชั้น ตัวปราสาทถูกล้อมรอบด้วยกำแพงหินคอนกรีต, คูน้ำ และสวนนิชิโนมารุซึ่งอยู่ทางป้อมตะวักตก ความงดงามของปราสาท ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของเมืองโอซาก้า ที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกต่างให้ความสนใจที่จะมาเยือนและชมตลอดทั้งปี

เที่ยง               รับประทานอาหารกลางวัน --- BENTO SET (3) (เพื่อไม่ให้เสียเวลาในการเช็คอินที่สนามบิน)

12.00 น.         เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ โอซาก้า เพื่อนำทุกท่านสู่ เกาะฮอกไกโด

15.15 น.         ออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนิวชิโตเสะ ฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น เที่ยวบินที่ JL2505 (มีเพียงเครื่องดื่มบริการให้เท่านั้น บนเครื่อง)

17.05 น.         เดินทางถึง ท่าอากาศยานนิวชิโตเสะ เกาะฮอกไกโด ณ ประเทศญี่ปุ่น หลังจากผ่านขั้นตอนศุลกากร เรียบร้อยแล้ว แล้ว (เวลาที่ญี่ปุ่น เร็วกว่าเมืองไทย 2 ชั่วโมง กรุณาปรับนาฬิกาของท่านเพื่อความสะดวกในการนัดหมายเวลา) ***สำคัญมาก!! ประเทศญี่ปุ่นไม่อนุญาตให้นำอาหารสด จำพวก เนื้อสัตว์ พืช ผัก ผลไม้ เข้าประเทศ หากฝ่าฝืนมีโทษปรับและจับ

เย็น                 รับประทานอาหารเย็นอิสระตามอัธยาศัย

ที่พัก                SMILE HOTEL PREMIUM - SAPPORO SUSUKINO หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน

เช้า                  รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (4)

เดินทางสู่ เมืองโอตารุ (Otaru) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) โอตารุเป็นเมืองท่าสำคัญสำหรับซัปโปโร และบางส่วนของเมืองตั้งอยู่บนที่ลาดต่ำของภูเขาเท็งงุ ซึ่งเป็นแหล่งสกีและกีฬาฤดูหนาวที่มีชื่อเสียง

เดินชม คลองโอตารุ (Otaru Canal) หรือ โอตารุอุนงะ มีความยาว 1.5 กิโลเมตร ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองโอตารุ โดยมีโกดังเก่าบริเวณโดยรอบปรับปรุงเป็นร้านอาหารเรียงรายอยู่ ไฮไลท์!!! บรรยากาศสุดแสนโรแมนติก คลองแห่งนี้สร้างเมื่อปี 1923 โดยสร้างขึ้นจากการถมทะเล เพื่อใช้สำหรับเป็นเส้นทางการขนถ่ายสินค้ามาเก็บไว้ที่โกดัง แต่ภายหลังได้เลิกใช้และมีการถมคลองครึ่งหนึ่งเพื่อทำถนนหลวงสาย 17 แล้วเหลืออีครึ่งหนึ่งไว้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว มีการสร้างถนนเรียบคลองด้วยอิฐแดงเป็นทางเดินเท้ากว้างประมาณ 2 เมตร

เข้าชม พิพิทธภัณฑ์กล่องดนตรี (Music Box Museum) พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีโอตารุเป็น หนึ่งในร้านค้าที่ใหญ่ที่สุดของพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีในญี่ปุ่น โดยตัวอาคารมีความเก่าแก่สวยงามและถือเป็นอีกหนึ่งในสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์เมือง ไฮไลท์!!! หน้าอาคารหลักของพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี มี นาฬิกาไอน้ำ (Steam Clock) ปัจจุบันมีเพียง 2 เรือนในโลกคือที่เมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา กับที่เมืองโอตารุแห่งนี้ นาฬิกาจะเล่นเพลงและปล่อยไอน้ำออกมาทุกๆ 15 นาที ถือเป็นจุดแลนด์มาร์คอีกหนึ่งจุดที่มาโอตารุแล้วไม่ควรพลาด นอกจากสถานที่ดังกล่าวข้างต้นนั้น ยังมีร้านขนมและร้านขายสินค้าที่ระลึกอีกมากมาย เช่น ร้านขนม LeTAO ที่ภายในนอกจากจะจำหน่ายขนมแล้วยังเป็นร้านกาแฟ ที่หากท่านเดินช้อปปิ้งมาเหนื่อยๆ สามารถแวะมาพักผ่อนจิบเครื่องดื่ม พร้อมชิมขนมหวาน ณ ร้านนี้ได้ ร้าน Rokkatei โกดัง โรงงานผลิตขนมของฮอกไกโด ด้านในมีจำหน่ายขนมนมเนย รวมไปถึง กาแฟ และของฝากของขึ้นชื่อของเมืองโอตารุ อีกทั้งสามารถซื้อสินค้าแบบ Tax Free ได้ด้วย และข้างๆกันยังมี ร้าน Kitakaro โกดังผลิตขนมอีกรายหนึ่ง ร้านนี้เน้นในส่วนของขนมสด อาทิ ซอฟท์ครีม เค้กต้นไม้ และขนมอบต่างๆ เป็นต้น อิสระให้ท่านเดินเล่น ถนนซาไกมาจิตามอัธยาศัย

เที่ยง                รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (5)

จากนั้นนำท่านสู่ หมู่บ้านช็อคโกแลต อิชิยะ (Shiroi Koibito Park by Ishiya) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) แหล่งผลิตช็อคโกแลตที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น ตัวอาคารของ โรงงานถูกสร้างขึ้นในสไตล์ยุโรป แวดล้อมไปด้วยสวนดอกไม้ จึงทำให้บรรยากาศของหมู่บ้านช๊อกโกแลตที่นี่ดูคลาสสิคและน่ารักไปอีกแบบช็อคโกแลตที่ขึ้นชื่อที่สุดของที่นี่คือ Shiroi Koibito ซึ่งมีความหมายว่าช็อคโกแลตขาวแด่คนรัก ท่านสามารถเลือกซื้อกลับไปให้คนที่ท่านรักทานหรือว่าซื้อเป็นของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้านก็ได้ นอกจากนี้ท่านจะได้เลือกซื้อช็อคโกแลตที่หาซื้อที่ไหนไม่ได้ และ  ท่านก็ยังจะได้ชมประวัติความเป็นมาของโรงงาน และการผลิตช็อคโกแลตอีกด้วย

อิสระช้อปปิ้ง ดิวตี้ฟรี (Duty Free) ให้ท่านเลือกซื้อสินค้าปลอดภาษี ทั้ง ยาบำรังกำลัง วิตามิน น้ำหอม ต่างๆ และสินค้าของฝากญี่ปุ่นต่างๆอีกมากมาย ตามอัธยาศัย

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ย่านซูซูกิโนะ(Susukino) นับเป็นย่านที่เต็มไปด้วยแหล่งบันเทิงที่โด่งดังมากที่สุดของเมืองซัปโปโร(Sapporo) อีกทั้งยังเรียกได้ว่าเป็นย่านบันเทิงที่ใหญ่ที่สุดในทางตอนเหนือของญี่ปุ่นทีเดียวล่ะค่ะ บอกเลยว่าอยากมาบันเทิงเริงใจยามค่ำคืนสัมผัสไลฟ์สไตล์แบบคนญี่ปุ่นแท้ๆต้องมาที่นี่ให้ได้เลยล่ะค่ะ เพราะเต็มไปด้วยร้านค้า บาร์ ร้านอาหาร ร้านคาราโอเกะ และตู้ปาจิงโกะ รวมกว่า 4,000 ร้าน บางร้านนี่เปิดจนถึงเที่ยงเที่ยงคืน

ค่ำ                   รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (6) --- พิเศษ!!! เมนู ชาบู + ขาปู

ที่พัก                SMILE HOTEL PREMIUM - SAPPORO SUSUKINO หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน

เช้า                  รับประทานอาหารเช้า  ณ ห้องอาหารของโรงแรม (7)

นำท่านเดินทางสู่ เมืองฟูราโน่ (Furano) นำท่านเข้าชม ฟาร์มโทมิตะ (Farm Tomita) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.20 ชั่วโมง) เป็นจุดชมดอกลาเวนเดอร์ที่ดีที่สุด มีวิวทิวทัศที่สวยงามจากฉากหลังเป็นภูเขาโทกะชิ ใกล้ๆกับทุ่งดอกไม้ยังมีร้านกาแฟ ร้านค้าจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากลาเวนเดอร์อีกด้วย อาทิ ซอฟท์ครีมลาเวนเดอร์ พุดดิ้งลาเวนเดอร์ เครื่องดื่มซ่าๆ อย่างโซดาลาเวนเดอร์และอีกมากมาย นอกจากจะมีชื่อเสียงเรื่องการปลูกลาเวนเดอร์แล้ว ฟาร์มโทมิตะยังมีการพัฒนาดอกไม้อีกหลากสายพันธุ์ให้ผลิดอกออกใบและสีสันที่สวยสดงดงาม ดังจะเห็นได้จากทุ่งดอกไม้ 7 สี หรือ ทุ่งอิโรโดริ (Irodori Field) ที่มีทั้งสีม่วง สีขาว สีแดง สีส้ม สีชมพู ฯลฯ งดงามดั่งสายรุ้งเลยทีเดียว จากนั้นเดินทางสู่ สวนชิคิไซโนะโอกะ (Shikisai no oka) สวนดอกไม้สุดสวยแห่งเมืองบิเอะ ที่สวนแห่งนี้มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า เนินสี่ฤดู เนื่องจากมีดอกไม้หลากหลายสายพันธุ์จัดเรียงสลับสีกันอย่างสวยงาม และดูได้ตลอดทุกฤดูกาลนั่นเอง สวนดอกไม้  ขนาดใหญ่มีพื้นที่ 7 เฮคเตอร์ ในช่วงฤดูร้อนเต็มไปด้วยดอกไม้ที่บานสะพรั่ง อิสระให้ท่านชมและเก็บภาพความสวยงามของดอกไม้นานาพรรณตามอัธยาศัย ณ สวนแห่งนี้ท่านสามารถเลือกเพลิดเพลินไปกับกิจกรรมต่างๆ เช่น การนั่งรถ Norokko (รถลากที่ถูกลากโดยรถแทร็คเตอร์) นั่งรถกอล์ฟสำหรับ 4 ท่าน หรือจะเลือกเล่นรถ ATV ก็ได้

(ราคาเครื่องเล่นไม่รวมอยู่ในราคาทัวร์ มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมประมาณ 500-2000 เยน)

เดินทางสู่ หมู่บ้านราเมนอาซาฮิคาว่า (Asahikawa Village) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที) ที่ราเมนของที่นี่มีรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์และได้รับการกล่าวขานถึงความอร่อยมายาวนานกว่าทศวรรษ หมู่บ้านราเมนอาซาฮิคาว่าได้ถือกำเนิดขึ้นในปี 1996 โดยรวบรวมร้านราเมนชื่อดังของเมืองอาซาฮิคาว่าทั้ง 8 ร้านมาอยู่รวมกันเป็นอาคารหลังคาเดียว

เที่ยง                อิสระรับประทานอาหารกลางวัน ณ หมู่บ้านราเมน

!!ไฮไลท์ หมู่บ้านราเมนที่รวบรวมร้านดังขั้นเทพไว้ในที่เดียว!! และยังมีห้องเล็กๆที่จัดแสดงประวัติความเป็นมาขอหมู่บ้านแห่งนี้ให้สำหรับผู้ที่สนใจได้มาศึกษาอีกด้วย ทุกๆ ร้านจะสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวของร้านตนเองขึ้นมาเพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้า เช่น ร้าน Asahikawa Ramen Aoba ที่แสนภาคภูมิใจในความเป็นราเมนเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดในอาซาฮิคาว่า หรือจะเป็นร้าน Ramen Shop Tenkin ที่เชื่อมั่นในน้ำซุปของตัวเองว่าเป็นหนึ่งไม่แพ้ใครที่สำคัญ ราเมง ถือเป็นอาหารเมนูยอดนิยมของคนญี่ปุ่น เพราะด้วยความที่กินง่ายและมีรสชาติที่หลากหลายจึงเป็นที่ถูกใจของคนญี่ปุ่นทุกเพศทุกวัย

จากนั้นนำท่านช้อปปิ้ง ณ อิออน อาซาฮิคาว่า (AEON Asahikawa Ekimae) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ของฮาซาฮิคาว่า อิสระให้ท่านได้เลือกซื้อของฝาก ของที่ระลึกกัน อาทิ ขนมโมจิ เบนโตะ ผลไม้ และขนมขึ้นชื่อของญี่ปุ่น อย่าง คิทแคท สามารถหาซื้อได้ที่นี่เช่นกัน

เย็น                 รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร (8)

ที่พัก                HOTEL CRESCENT ASAHIKAWA หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน

เช้า                  รับประทานอาหารเช้า  ณ ห้องอาหารของโรงแรม (9)

นำท่านเดินทางสู่ เมืองบิเอะ (Biei) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.10 ชั่วโมง) เมืองเล็ก ๆ ล้อมรอบด้วยภูมิทัศน์ที่งดงามของภูเขาและทุ่งนาอันกว้างใหญ่ และในฤดูหนาวทัศนียภาพก็จะแตกต่างไป โดยจะเต็มไปด้วยหิมะขาวโพลนสลับกับต้นสนที่ยืนต้นแต่ไร้ใบ ให้บรรยากาศโรแมนติกไปอีกแบบนึง แต่หากมาในช่วงตุลาคม ก็จะได้พบช่วงใบไม้เปลี่ยนสีที่อวดสีสันให้ชมกันตามแหล่งเขาอีกด้วย

นำท่านสู่ น้ำตกชิราฮิเกะ (Shirahige Waterfall) หรือที่รู้จักกันในชื่อน้ำตกหนวดขาวแห่งเมืองบิเอะ 1 ใน 5 ของน้ำตกที่สวยที่สุดบนเกาะฮอกไกโดเป็นสถานที่ท้องเที่ยวที่นิยมในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวอย่างมาก ไฮไลท์ของที่นี่ก็จะเป็นน้ำที่ไหลลงมานั้นเป็นน้ำบาดาลที่ออกมาจากรอยแตกของหน้าผาไหลลงสู่แม่น้ำบิเอะ นอกจากนั้นยังมีมีความโดดเด่นของสีของแม่น้ำที่เป็นสีฟ้าอมเขียว เกิดขึ้นจากแร่โคบอลต์

จากนั้นนำท่านชม สระอะโออิเคะ(Aoiike) หรือที่เรารู้จักกันอีกชื่อนึงว่า “สระน้ำสีฟ้า(Blue Pond)” ห่างจากเทือกเขา Tokachi ประมาณ 2.5 กิโลเมตร นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เหมาะกับนักท่องเที่ยวสายสงบส่วนมากคนที่จะมาเที่ยวก็จะเป็นคนท้องถิ่นมากกว่านักท่องเที่ยวต่างชาติ สาเหตุที่มีชื่อว่า สระอะโออิเคะ(Aoiike) หรือสระน้ำสีฟ้า(Blue Pond)นั้นก็เพราะว่ามีการตั้งชื่อตามสีของน้ำที่เกิดจากแร่ธาตุตามธรรมชาตินั่นเองโดยน้ำในส่วนนี้เพิ่งเกิดขึ้นจากการกั้นเขื่อนเพื่อป้องกันไม่ให้โคลนภูเขาไฟTokachi ที่ปะทุขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1988 ที่ได้ไหลทะลักเข้าสู่เมืองนั่นเอง

เที่ยง                รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (10) --- ไฮไลท์ !! ทานบุฟเฟต์เมลอน

จากนั้นนำท่านสู่ ศาลาว่าการเมืองฮอกไกโดหลังเก่า ผ่านชม (Former Hokkaido Government Office) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เป็นอาคารสีแดงอิฐ สร้างในปี 1888 นับเป็นอาคารขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในไม่กี่อาคารของญี่ปุ่นในสมัยนั้น ภายในตกแต่งอย่างหรูหรา ด้านหน้ามีสัญลักษณ์ดาวห้าแฉก ธงรูปดาวเจ็ดแฉก และสวนหย่อมที่ร่มรื่น เรียงรายด้วยต้นซากุระ และต้นแปะก๊วย อาคารแห่งนี้เคยเป็นที่ทำการรัฐบาลท้องถิ่นสมัยบุกเบิกเกาะฮอกไกโด ปัจจุบันเปิดให้ประชาชนเข้าชมห้องทำงานต่างๆ และหอสมุดเก็บบันทึกทางราชการ ผ่านชม หอนาฬิกาเมืองซัปโปโร (Sapporo Clock Tower หรือภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า Sapporo Tokeidai) เป็นหอนาฬิกาโบราณมีลักษณะเป็นอาคารไม้ที่มีหลังคาสีแดงและผนังสีขาวถูกออกแบบและบริจาคให้โดยรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ในปี ค.ศ. 1878 เป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของเมืองซัปโปโร สำหรับตัวนาฬิกาถูกติดตั้งในปี ค.ศ. 1881 จากบริษัท E. Howard & Co. เมือง Boston และในปี ค.ศ. 1970 หอนาฬิกาแห่งนี้ถูกกำหนดให้เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญแห่งชาติ อีกด้วย

อิสระให้ท่านเดินเล่น ณ ถนนช้อปปิ้งทานุกิโคจิ (Tanukikoji Shopping Street) เป็นย่านการค้าเก่าแก่ของเมืองซัปโปโร โดยมีพื้นที่ทั้งหมด 7 บล็อก ภายในนอกจากจากจะเป็นแหล่งรวมร้านค้าต่างๆ อย่างร้านขายกิโมโน เครื่องดนตรี วิดีโอ โรงภาพยนตร์แล้ว ยังมีร้านอาหารมากมาย ทั้งยังเป็นศูนย์รวมของเหล่าวัยรุ่นด้วย เนื่องจากมีเกมเซ็นเตอร์ และตู้หนีบตุ๊กตามากมาย ร้านดองกิ ร้าน 100 เยน นอกจากนั้นที่นี่ยังมีการตกแต่งบนหลังคาด้วยตุ๊กตาทานุกิขนาดใหญ่ และเนื่องจากร้านค้าส่วนใหญ่มีหลังคาคลุม ดังนั้น ไม่ต้องกังวลเรื่อง ฝนหรือหิมะ ท่านสามารถช้อปปิ้งได้อย่างเพลิดเพลิน

เย็น                 รับประทานอาหารเย็นอิสระตามอัธยาศัย

ที่พัก                SMILE HOTEL PREMIUM - SAPPORO SUSUKINO หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน

เช้า                  รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (11)

นำท่านสู่ ตลาดปลานิโจ (Nijo Market) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาที) ตลาดปลาใจกลางเมืองซัปโปโร แม้มีขนาดไม่ใหญ่มากแต่ด้วยที่อยู่กลางเมือง เดินทางสะดวกและสินค้าครบครัน จึงเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นและต่างชาติจำนวนมาก ตลาดปลาแห่งนี้ประกอบไปด้วยร้านจำหน่ายอาหารทะเลสดๆ ใหม่ๆ ร้านจำหน่ายสินค้าแปรรูป ต่างๆ ห้ามพลาด!!! สำหรับผู้ที่ชื่นชอบรสชาติของปูขนยักษ์ อันเลื่องชื่อแห่งเกาะฮอกไกโด ที่ตลาดแห่งนี้ท่านจะเห็นปูขนตัวเป็นๆ ว่ายน้ำในตู้ ที่ต้องบอกว่าราคาไม่แพง หรือ จะเป็น หอยเชลย่าง ทีทานกับโชยุ นอกจากนี้ ยังมีร้านอาหารที่อยู่ด้านหลังผ้าม่านใสๆ กั้นฉาก หากท่านอยากทานอาหารปรุงสุก สดใหม่ก็สามารถออเดอร์ด้านหน้าและเข้าไปรอนั่งรับประทานด้านหลังได้เลย ก่อนจะอิ่มกันยังมีเมล่อนสีส้มหวานฉ่ำ ที่มาทานปิดท้ายอีกด้วย

เดินทางสู่ เนินพระพุทธเจ้า (Hill of Buddha) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที) ตั้งอยู่ทางเหนือของซัปโปโร เป็นผลงานชิ้นเอกอีกชิ้นหนึ่งของทาดาโอะ อันโดะ (Tadao Ando) สถาปนิกชาวญี่ปุ่นเจ้าของรางวัลพริตซ์เกอร์ โดยมีลักษณะเป็นเนินเขาล้อมรอบรูปปั้นพระพุทธรูปมีความสูงมากถึง 13.5 เมตรและมีน้ำหนัก 1500 ตัน พื้นที่ที่ล้อมรอบจะมีค่อยๆลาดลง อีกทั้งรายล้อมด้วยธรรมชาติอันงดงาม สามารถชมในวิวทิวทัศน์ที่แตกต่างกันทุกๆฤดู ไม่ว่าจะเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิที่จะเต็มไปด้วยต้นไม้เขียวขจีแลดูร่มรื่นร่มเย็น ช่วงฤดูร้อนที่จะแวดล้อมได้สีม่วงของต้นลาเวนเดอร์ และช่วงฤดูหนาวที่เหมือนอยู่ท่ามกลางความขาวสะอาดของหิมะที่ขาวโพลน อิสระให้ท่านชื่นชมความงามของสถานที่แห่งนี้และสัมผัสพุทธศาสนาในมุมมองที่ต่างจากเดิม !!!ไฮไลท์ Unseen Hokkaido ที่เมื่อเดินไปจนถึงจุดที่ประดิษฐานพระพุทธรูปที่อยู่บริเวณปลายทางของอุโมงค์แล้วมองย้อนขึ้นไป จะมองเห็นเหมือนมีแสงสะท้อนอยู่รอบๆองค์พระพุทธรูปเปรียบเสมือนรัศมีแสงแห่งฟ้า

เที่ยง                รับประทานอาหารกลางวันอิสระตามอัธยาศัย

นำท่านช้อปปิ้ง มิตซุยเอาท์เล็ตพาร์ค ซัปโปโร คิตะฮิโรชิมะ (Mitsui Outlet Sapporo Kitahiroshima) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที) ซึ่งเป็นมิตซุยเอาท์เล็ตพาร์คขนาดใหญ่ สามารถเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนม ทั้งเสื้อผ้าผู้หญิง ผู้ชาย เด็ก กระเป๋า รองเท้า และมีร้านอาหารมากมาย ที่นี่มีศูนย์อาหารขนาดใหญ่ที่มีจำนวนกว่า 650 ที่นั่งมีเมนูอาหารที่หาทานได้เฉพาะที่ฮอกไกโดมากมาย อาทิ ข้าวหน้าอาหารทะเล, ไคเซ็นด้ง และบูตะด้งอาหารขึ้นชื่อของโทคะชิ แฮมเบอเกอร์ทำจากเนื้อวัววากิวฮอกไกโด เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีสินค้าเกษตรจากท้องถิ่นและสินค้าขึ้นชื่อของฮอกไกโดที่ท่านสามารถเลือกซื้อกลับไปเป็นของฝาก ที่ผู้ได้รับจะต้องถูกใจแน่นอน

สมควรแก่เวลา นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนิวชิโตเสะ ฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น

18.05 น.        เหินฟ้าสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ โอซาก้า เที่ยวบินที่ JL2506 (มีเพียงเครื่องดื่มบริการให้เท่านั้น บนเครื่อง)

20.20 น.        เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ โอซาก้า (เพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง)

00.55 น.        เหินฟ้าสู่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ ประเทศไทย โดย สายการบินเจแปนแอร์ไลน์ (JAPAN AIRLINES)  เที่ยวบินที่ JL727 (บริการอาหารร้อน พร้อมเครื่องดื่ม บนเครื่อง)

04.40 น.         เดินทางถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ ประเทศไทย พร้อมกับความประทับใจเต็มเปี่ยม

แผนที่

เลือกวันเดินทาง

วันเดินทางไป - กลับ ผู้ใหญ่ท่านละ พักเดี่ยวเพิ่มเงิน ราคาเด็กท่านละ ว่าง
30 พ.ค. 67 - 06 มิ.ย. 67 48,888 บาท 15,000 บาท 12,222 บาท 0
04 มิ.ย. 67 - 11 มิ.ย. 67 55,888 บาท 15,000 บาท 15,000 บาท 0
11 มิ.ย. 67 - 18 มิ.ย. 67 55,888 บาท 15,000 บาท 15,000 บาท 30 จอง
18 มิ.ย. 67 - 25 มิ.ย. 67 55,888 บาท 15,000 บาท 15,000 บาท 29 จอง
04 ก.ค. 67 - 11 ก.ค. 67 55,888 บาท 15,000 บาท 13,972 บาท 30 จอง

เงื่อนไข

** เพื่อความถูกต้อง กรุณาตรวจสอบข้อมูลเดินทางและเงื่อนไขการชำระเงินกับทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายทุกครั้ง
ราคาเริ่มต้น
55,888 บาท
รหัส 009-8988 ทัวร์ญี่ปุ่น OSAKA KYOTO HOKKAIDO ASAHIKAWA
ราคาเริ่มต้น 55,888 บาท
เดินทางช่วง พ.ค.67 - มิ.ย.67
เดินทางโดย Japan Airlines (JL)
ดูเพิ่มเติม https://www.grandtogethertour.com/tour.php?tour_id=6661

ไฟล์ PDF https://tourfiles.vm101.net/pdf/015/009-8988.pdf

สนใจติดต่อ บริษัท แกรนด์ทูเก็ตเตอร์ จำกัด
เลขที่ใบอนุญาต 11/08199
โทร 086-360-0023
LINE ID @grandtogether
อีเมล grandtogethertour@gmail.com
คัดลอกข้อมูลทัวร์
เพิ่มในรายการโปรด
Share on social networks
Scan QRCode
ติดต่อสำนักงาน
บริษัท แกรนด์ทูเก็ตเตอร์ จำกัด
เลขที่ใบอนุญาต 11/08199

9/31 หมู่ 3 แขวงตลิ่งชัน เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร 10170

จันทร์-ศุกร์ 9.00 - 18.00 น.
บริการของเรา
บริการจัดนำเที่ยวในประเทศ
บริการจัดนำเที่ยวต่างประเทศ
บริการจัดอบรมประชุมสัมมนา
บริการจองตั๋วเครื่องบิน
ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้า
LineID
Add LINE Friends via QR Code
ติดตามเรา
home
หน้าหลัก
quatation
ขอใบเสนอราคา
chat
ติดต่อเรา
ติดต่อ
chat ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้า
search ค้นหาโปรแกรมทัวร์
home หน้าหลัก
approval ขอใบเสนอราคา